การไม่มีคู่ครอง ทำให้ชีวิตเปล่าเปลี่ยว เงียบเหงา เดี่ยวดาย ไม่ค่อยมีคนคุย มนุษย์เป็นสัตว์ที่ยังต้องมีสังคม ชายและหญิงเป็นของคู่กัน เพราะธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้อย่างนั้น และเพื่อการสืบพันธุ์ รักษาเผ่าพันธ์แห่งความเป็นมนุษย์ คนที่เคยผิดหวังในด้านความรัก ก็คงอาจเข็ดกะความรักไปนาน มักเลือกจะอยู่คนเดียว
ความไม่มีคู่ครอง นี่มันเป็นทุกข์ไหม? ในสายตาของคนที่รู้มากกว่าเรา ทุกข์แน่นอน แต่ในสายตาของคนทั่วไป มันแล้วแต่ว่า เราจะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรครับ อย่างผมนี่ ให้เข้าใจความคิดของ พระอริยะชั้น สกิทา อนาคามี หรือพระโพธิ์สัตว์กำลังใจสูง ๆ นี่ทำไม่ได้หรอก ปัญญายังไม่ถึง ความเข้มข้นของการบำเพ๊็ญบารมี มันก็ยังไม่ถึงพวกท่านเหล่านั้น เลยขอสรุปว่าความคิดใครความคิดมันครับ เราอยากมีก็มีไป ถ้าเราไม่อยากมีเราก็ศึกษาธรรมะ ทำใจให้หลุดพ้นจากบ่วงทั้งหลายที่จะพันธนาการเราไว้ในวัฏสงสารเข้าไว้ครับ ท่านไหนที่อยากมีมันก็แล้วแต่สภาวะของท่านเหล่านั้น ไม่ควรเอาสภาวะที่คนอื่นเป็นมาใส่ใจ เอาตัวเรานี่แหละ พอใจแค่ไหน ทำได้แค่ไหน มีกำลังใจในการประพฤติพรหมจรรย์แค่ไหน เรารู้ แต่ถ้าอยากพ้นจากวัฏสงสาร ก็เร่งการทำบารมีเข้าครับ ให้เห็นทุกข์ของการอยู่ในวัฏสงสาร ให้เห็นบ่วงทีุ่ดรั้งเราให้อยู่ในวัฏสงสาร ให้เห็นทุกข์ของการมีคู่ครองไว ๆ ครับ เพื่อมรรคผลนิพพาน
ผล และเหตุที่ต้องเป็นแบบนั้นๆ - คนที่เหงา เพราะอยาก.. อยากมีเหมือนเขา อยากมีคนอยู่ข้างๆ - มนุษย์เป็นสัตว์ที่ยังต้องมีสังคม ต้องสืบพันธุ์ นั่นเพราะจิตไม่มีกำลังอยู่ได้ด้วยตนเอง.. จึงต้องหาสิ่งต่างๆมาเป็นเครื่องอยู่ของจิตตาม ราคัคคิ โทสัคคิ โมหัคคิ ที่มีในตน ทำให้เกิดความรู้สึกที่ขาด ขาดเพราะอยาก เพราะตราตรึงใจยินดีในอารมณ์ เพราะใคร่ เพราะต้องการ เพราะถวิลหา จึงหมกมุ่นฝักใฝ่ที่จะได้มาเสพย์ มาครอบครอง - ผิดหวัง เข็ด อยู่คนเดียว แม้รู้ว่าทุกข์ก็ยังอยากจะมี ด้วยหวังว่าจะมีสักคนที่เข้าใจเราและอยู่กับเราตลอดไป เพราะเอาความสุขสำเร็จของตนไปผูกขึ้นไว้กับผู้อื่น.. และสิ่งอื่นภายนอก จึงทนอยู่ได้ยาก ไม่อาจพบเจอสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจหรือความพรัดพรากได้ -------------------------------------- ข้อเสนอแนะปลงใจเพื่อออกจากอาการที่เป็นอยู่นั้นๆ - เมื่อโลกมันเป็นแบบนี้ สัตว์ที่ชื่อว่ามนุษย์เป็นแบบนี้ แล้วจะไปติดใจข้องแวะมันไปเพื่ออะไร ติดใจข้องแวะร้อย ก็ทุกข์ร้อยจากสิ่งที่รัก ที่ชัง ที่เจริญใจ และไม่เจริญใจทั้งหลายนั้น ..ทุกอย่างมีความเสื่อมเป็นธรรมดา มีความพรัดพรากเป็นที่สุด ทุกอย่างอยู่ได้นานสุดแค่หมดลมหายใจเรานี้เท่านั้น มันเป็นสัจธรรมของโลก เราไม่อาจจะฉุด ยื้อ รั้ง บังคับได้ดังใจปารถนา - มีใครในโลกที่ไม่เคยอกหัก หรือพรัดพราก มันย่อมต้องมีทุกคนในโลกใช่ไหมครับ แต่เมื่อเขาพบเจอแล้วเขาอยู่กับมันอย่างไร แต่ก่อนนี้เมื่อเกิดมาก็ไม่เคยมีอย่างนี้ มีแต่พ่อแม่ดูแลหาข้าว หาน้ำ เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยวให้ ส่งเรียน ให้การศึกษาทำมาเลี้ยงชีพ เมื่อเติบใหญ่กลับลืมพ่อแม่แล้วทั้งๆที่นับวันท่านยิ่งจะแก่เฒ่ารอวันตาย แต่เรากลับยิ่งไปผูกใจไว้กับคนที่ไม่เคยมีคุณแก่เรา มีเรื่องเดียวคือสืบพันธ์ - ดังนั้นทำความเข้าใจมัน เข้าใจโลก ไม่เอาใจเข้ายึดครองสิ่งใดเพราะไม่ใช่ฐานะที่จะพึงมีหรือบังคับได้มันย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็นธรรมดา - ไม่เอาความสุขสำเร็จของเราไปผูกขึ้นไว้กับใคร บุคคลใด สิ่งใดภายนอก สุขและทุกข์เกิดขึ้นที่ใจและก็ดับที่ใจเรานี้ไม่ใช่ที่อื่น เพราะเอาใจเข้ายึดครองสัมผัสภายนอกกายใจเราความสุขและทุกข์จึงเกิดเพราะตาสัมผัส หูสัมผัส จมูกสัมผัส ลิ้นสัมผัส กายสัมผัส ความรู้สึกนึกคิด ดังนี้เราควรมีสติอยู่ทุกเมื่อไม่ติดใจข้องแวะสิ่งไรๆที่มากระทบสัมผัสในตา หู จมูก ลิ้น กาย ความรู้สึกนึกคิด แล้ววางใจไว้กลางๆ กับสัมผัสเหล่านั้นที่มากระทบ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ - พ่อแม่ให้กายเรานี้มาเพื่อสะสมบารมี ทาน ศีล ภาวนา ดำรงชีพชอบ ทำความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน ไม่ใช่ให้เราเกิดมาเพื่อเสพย์เมถุนเท่านั้น - แท้จริงแล้วเราให้ความรักได้กับทุกคน อยู่กับทุกคนได้อย่างสุขกายสบายใจไม่ใช่เฉพาะใคร แค่เรารักโดยไม่ใช่เพียงเพื่อเสพย์เมถุนมีเซ็กซ์สืบพัน แต่รักด้วยความเป็นคนเหมือนกัน เป็นสัตว์สังคมเหมือนกัน มีความต้องการที่เหมือนกัน มีความผลักไสที่เหมือนกัน หากเรารักเพียงเพื่อเสพย์สังวาส ต่อให้ตายจากโลกนี้ไปมันก็ไม่พอ เพราะรักด้วยการเสพย์สังวาสมันอิ่มไม่เป็น พอได้เสพย์สมก็เจริญใจ พอไม่ได้เสพย์สมก็ขัดใจ พอเบื่อก็เตลิดกระสันอยากแสวงหาใหม่ไปเรื่อยไม่สิ้นสุด กาม ราคะ เมถุน มันอิ่มไม่เป็น ลองทำความยินดีพอใจที่ได้คุยกัน สนทนากัน ได้พูด ได้แบ่งปัน ได้เอื้อเฟื้อ ได้เกื้อกูลสุขกันแก่กัน ปารถนาเพียงบุคคลนั้นๆ กลุ่มคนนั้นๆได้รับประโยชน์สุขจากเรา ยินดีที่ได้พูดคุยใกล้ชิดกับเรา ได้ความสุขกายสบายใจจากเราเท่านั้น - โลกนี้ที่มีเกิดต่อไม่สิ้นสุด ไมเกิดเป็นคนก็เกิดสัตว์ นั่นเพราะรักด้วยราคะ สืบพันธุ์ แต่ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดมีผู้มีบุญมาจุติเป็นมนุษย์ได้ แต่เพราะรักด้วยราคะนี้มันไม่มีสิ้นสุด เกิด แก่ เจ็บ ตาย สุข ทุกข์ ยาก ดี มี จน สมบูรณ์ พิการเป็นไปตามบุญพาวาสนาแต่ง มันไม่หมดสุดสิ้นกองทุกข์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงต้องอุบัติขึ้นบนโลกเพื่อประกาศธรรมแท้ ให้สัตว์โลกได้หลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ทั้งสิ้นนี้.. ยกตัวอย่างที่คุณอกหัก พรัดพราก เจ็บ ปวด เหงา ทรมาน มีสมหวัง ผิดหวัง พรัดพราก เจอแต่สิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจ คุณต้องเกิดมาเวียนวนพบเจออย่างนี้ซ้ำๆไม่สิ้นสุด เพราะรักด้วยราคะสืบพันธุ์ อย่างนี้มันเป็นสุขหรือเป็นทุกข์เล่า เมื่อที่เป็นอยู่มันทุกข์ คุณอยากได้คนที่มาเข้าใจเอื้อเฟื้อเกื้อกูลคุณไหม เราควรที่จะทำให้มันสิ้นทุกข์ไหม ถ้าเห็นว่าเราจะทำให้มันสิ้นทุกข์ เราก็เพียงเปลี่ยนจากรักด้วยราคะ มาเป็นด้วยความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลประโยชน์สุขแก่กัน เมื่อถึงเวลามันจะได้มาก็ได้มาเองไม่ต้องดิ้นรนให้ยาก แต่อยากจะทุกข์ต่อก็รักเพื่อสืบพันธ์อย่างเกียวต่อไปครับ ..หากเข้าใจและทำอย่างข้างต้นได้ ชีวิตเราจะดีขึ้น ไม่รู้สึกขาด ทุกข์เบาบางลง ..ผมเองก็เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว สุข เศร้า เหงา เงี่ยน ทุกข์ ต่อให้ได้มาก็ไม่จบสิ้นอิ่มไม่เป็น จนเมื่อรู้อิ่มเมื่อถึงเวลามันมาเองไม่ต้องดิ้นรน เพราะยิ่งถวิลหาดิ้นรนหายิ่งกระสันอยากก็ยิ่งไม่มีโอกาสได้มา - ผู้หญิงต้องการคนที่ดูแลเขาได้ สะอาด ซื่อสัตย์ เป็นผู้นำที่ดี เอาใจใส่ รู้อภัยให้กัน เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ไม่ใช่แค่สืบพันธ์ - ผู้ชายก็ต้องการคนที่เข้าใจ ช่วยเหลือเขาได้ สะอาด ซื่อสัตย์ คอยเข้าใจ อยู่เคียงข้าง รู้อภัยให้กันเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ไม่ใช่แค่สืบพันธ์ - ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมันคือทั้งหมดนี้ที่กล่าวมา และมีทั้งมุมที่ต่อต้าน สะก้อน น้อมรับต่างๆกันไป เพราะสิ่งมีชีวิตเป็นสัตว์ที่มีความรู้สึกนั่นเอง ......................................
มองธรรม มองโลก ความถวิลใฝ่หา เพราะอาจยังมีความอยาก อยากมี อยากได้ อยากเป็น อยากเห็น อยากรู้ ... การพัฒนาของจิตให้ละเอียด ไปสู่ความหลุดพ้น ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา จิตไม่หาญกล้าพอ ที่จะล่ะ ตัดกามกิเลสได้โดยเร็ว การมีคู่ เป็นเรื่องปกติธรรมดาของสัตว์โลก