ผมนี้เคยเขียนน้ำมันเมื่อตอนอายุประมาณ 15 ปัจจุบัน 25 ตอนเขียนมาใหม่ๆ ก็ไปไหว้ครูปีละครั้ง แต่พอไหว้ได้ 2 ปีก็เลิกไหว้ เพราะไม่ชอบไปในที่ๆคน เยอะๆ ทีนี้เมื่อไม่นานมานี้ไปเยี่ยมหลวงพ่อที่เคยไปบวชอยู่ด้วยที่เพชรบูรณ์ ก็ไปเจอพระอีกท่านนึงมาทักเรื่อง ผมโดนครูอาจารย์ลงโทษ แต่ท่านบอก ท่านเป็นพระไม่อยากพูดเรื่องแบบนี้โดยตรงเลยให้ผมคุยกะผ้าขาวคนหนึ่งที่ ท่านรู้จัก ผ้าขาวก็เลยแนะนำให้ผม ถวาย ผลไม้ 9 อย่าง ดอกไม้และเทียน ประกอบ พิธีเพื่อทำขันธ์5และขันธ์8 ให้ไหว้ปีละครั้ง หรือทุกวันพระใหญ่ ตอนแรกผมเข้าใจว่า ทำทานแล้วนึกถึงครูบาอาจารย์ก็ได้ แต่มันคนละอย่างกัน ทำทานก็ส่วนทำทาน ไหว้ครูก็ส่วนไหว้ครู บางทีผมก็จะเห็นเป็นฤาษีมายืนมอง บ้างหละ เป็นพราหมณ์ มายืนมองบ้าง บางทีผมก็รู้สึกทะแม่งๆในใจอยู่แล้วหละ ว่ามีอะไรรึป่าว เพราะเราไม่ได้เป็นคนมีคุณวิเศษอะไรเหมือนกับว่าเราไม่ได้จง ใจเห็นแต่เราถูกทำให้เห็นโดยครูอาจารย์ที่เคยไปเขียนน้ำมันเพื่อย้ำเตือนเรา พอไหว้ครูเสร็จ ผมว่าก็ดีนะครับ สบายใจดี ปรกติบางทีก็รู้สึกเหมือนมีคนมาชี้แนะในใจ เวลาพิจรณาอะไร เพราะผมไม่ใช่่คนรักการอ่าน ชอบค่อยๆวิเคราะห์ แต่พอไหว้ครูก็รู้สึกว่า ราบรื่นขึ้น ก็ขอฝากเป็นวิทยาทานละกันครับ สำหรับคนที่เคยไปสักยันต์หรือเขียนน้ำมันอะไรต่างๆแล้วไม่ไปไหว้ครู ก็ลองไหว้ดูครับไม่ยาก แค่ผลไม้ ดอไม้ธูปเทียน หาซื้อไม่ยาก แล้วก็ไม่ได้ เสียเวลาอะไรมากมาย แล้วการไหว้ครูก็ยังช้วยเรื่องความเจริญต่างๆที่บาง ทีเราหาทางออกไม่ได้แต่เหมือนมีอะไรมาคอยช้วยอีกด้วย พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ก็ควรแก่การไหว้ควรทำให้สม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลาย fishh_