สวัสดีค่ะ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย january2555, 9 มกราคม 2012.

  1. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    ความจริงช่วงนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรจะถามนะ แต่ก็อยากจะระบายอะไรบ้างเล็กน้อย
    คือมันคงจะเกิดจากเรามีเวลาว่าง มาอ่าน net มากไปแล้วก็ไม่มีใครมาควบคุม
    งานน้อย ว่างมาก ความคิดฟุ้งซ่าน คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็รู้ว่าไม่ดี
    แล้วก็ยังรู้สึกผูกพันคุ้นเคยกับห้องนี้ (เหมือนคนโดนของ แต่ไม่ใช่หรอกต้องโทษกิเลสตัวเองมากกว่า)
    เราไม่กล้าไปเล่าให้ใครฟังโดยตรงหรอกเพราะมันคงเป็นเรื่องตลก และแปลกมาก
    แต่มันก็อึดอัด เลยขอโพสต์ ในห้องนี้
    ขอบคุณนะที่เข้ามาอ่าน
     
  2. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    หมอจัดยาให้ นี่เลย

    ความคิดฟุ้งซ่าน คิดไปมา ซ้ำไปซ้ำมาเช่นเดิม เกิดอาการเปนอารมณ์ฟุ้ง
    คิดไปจบแล้วกลับมาคิดอีก คิดอยู่นั่นเอง เรียกว่าโรคฟุ้ง
    ต้องแก้ด้วย ยาที่ชื่อ อานาปานสติ ค่ะ ให้ยาตอนนี้เลย
    ลองกินดูนะคะ เมื่อไรฟุ้งกินได้เลย ไม่ขึ้นกับก่อนหรือหลังอาหาร
    กินได้บ่อยเท่าที่ต้องการ หากไม่หายอีกให้เดินจงกรมในห้องก็ได้
    พร้อมกินยาไปด้วย ทีนี้น่าจะหายขาด
    ยานี้ หมอให้กินได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน จ่ายเปนแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ก็พอ
    สาธุ สาธ สาธุ ต้องสาธุสามครั้งหลังกินยาแล้วด้วยนะ
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    ถ้าคิดฟุ้งซ่านให้คิดช้าๆ ลากความคิดยาวๆ
     
  4. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    คิดช้าๆ ลากความคิดยาวๆ เพื่อให้มีสติรู้ตัวว่ากำลังคิด แล้วเราก็จะหยุดคิด หรือเปล่า คุณ bluebaby2

    อย่างตอนนี้เราอยู่หน้าคอมพ์ ก็ทำงานไปด้วยแต่เป็นงานไม่รีบด่วน แล้วเราก็ชอบแว๊ป มาเข้าเว็ปนี้ เรื่อยๆ น่ะ แล้วเราก็ดีใจนะที่คุณเข้ามาตอบทุกครั้ง
    ก็แค่นี้แหละ ขอบคุณนะคะ ถ้ามีอะไรเราจะเข้ามาโพสต์ใหม่
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    ใช้ได้กับทุกเรื่องทั้งคนที่ติดคิดเยอะ คนติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดรสชาติอาหาร ก็แค่
    ทำอะไรให้ช้า อยู่กับมันนานๆ สิ่งเหล่านี้ต้องการการแสดงออกต้องให้สติตามทัน
    มัน เหมือนกับคนที่คิดโกรธคนอื่นในหัวมากมายจนต้องพูดระบายออกมาเพราะ
    สติมันตามความคิดไม่ทัน ความคิดมันเร็วเกิน แต่พอพูดออกมามันช้าสติเริ่มตาม
    ทันมันก็เลยหาย หลักการง่ายๆ ก็คือให้สติตามให้ทัน
     
  6. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    คนที่ติดอะไรก็ตาม จะรู้สึกไม่มีอิสระ เหมือนโดนมัดโดนดึง ไปเพราะความคิดความยึดติด
    พอเราลองคิดช้าๆ คิดยาวๆ มันเหมือนมีสติกลับมารู้ตัวรู้ปัจจุบันมากขึ้น แล้วก็หายใจยาวขึ้น เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ

    ปกติเราไม่ค่อยพูด เอาแต่คิด ยิ่งคิดก็ยิ่งวน อ่านหนังสือก็ได้คำตอบบ้าง แต่มันก็ตรงเท่าไร ก็ชอบแนวคิดของคุณนะ มีประโยชน์ นำมาใช้ได้ผล เหมือนคุณได้ศึกษามามาก
    แล้ว ก็สังเคราะห์ความคิดเป็นของตัวเอง ดูมีเหตุมีผลดี ขอบคุณนะคะ
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    ครับความคิดมันเป็นเหมือนเครื่องมืออย่างหนึ่งเอาไว้ใช้ทำงาน คนเราสามารถ
    เข้าใจได้ด้วยความคิดและสามารถใช้ใจเข้าใจได้ด้วย ถ้าเรียนรู้ที่จะเข้าใจอะไร
    โดยใช้ใจจะพบรสชาติใหม่ของชีวิต เหมือนเราเข้าใจบทกวี เข้าใจดนตรี เข้าใจ
    ท่วงทำนองและจังหวะชีวิต เมื่อเราทำงานเราใช้ความคิดแต่เมื่อเราไม่ต้องทำ
    งานเราก็ไม่จำเป็นต้องแบกมันไว้ เมื่อเราวางความคิดจิตจะตกลงไปที่ใจ จะ
    สามารถเข้าใจอะไรด้วยใจได้ และสิ่งที่เข้าใจด้วยใจก็เป็นอะไรที่มหาศาลเก็บไว้
    คนเดียวไม่ได้ จะต้องแผ่ไปทั่วทุกทิศ ให้กับทุกสรรพสิ่ง
     
  8. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    อ่านแล้วซาบซึ้ง เดี๋ยวจะเอากลับไปทบทวนใหม่ค่ะ
     
  9. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    เราอ่านดูแล้วก็คงต้องเข้าใจด้วยความคิดเดิมๆ ไปก่อน แต่ก็พอเข้าใจนะว่าถ้าทำอะไรด้วยใจคงจะทำแล้วมีความสุข เราพบว่าสิ่งที่ผ่านมา เราทำอะไรด้วยสมองตลอด ไม่ค่อยมีใจเท่าไร เช่นจะเรียนอะไรก็ไม่รู้ว่า ตัวเองชอบอะไร หรือสิ่งที่ชอบอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ใช่
    แต่พี่เขาก็บอกว่า บางทีมันบอกยากนะว่าชอบอะไร หรือเรียนตามความชอบ เพราะเด็กก็อาจจะไม่รู้จริงว่าสิ่งที่ชอบ พอถึงเวลาทำงาน อาจจะไม่ตรงกันก็ได้ ก็อาจจะต้องเลือกเรียนตามคะแนนไปก่อน คุณเห็นด้วยมั้ย

    เมื่อก่อนเราเคยเห็นคนคุยกันด้วยภาษามือบนรถเมล์ หัวเราะกัน ก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะมีความสุขเหมือนคนทั่วไปอย่างไร แล้วก็เคยเจอคนตาบอดไปเทียวเมืองนอก มีคนถามเหมือนกันว่าตาเขาไม่เห็นอะไร ? แต่เขาบอกว่าเขาใช้จินตนาการ ซึ่งน่าจะสวยงามมากกว่าคนตาดีเห็นเสียอีก ตอนนี้เราก็เข้าใจและเห็นด้วย

    สิ่งสำคัญมักมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ต้องมองด้วยหัวใจ ก็คงต้องเรียนรู้ปรับปรุงพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ นอกจากเจริญสติ แล้วก็ต้องเจริญเมตตาให้มากๆ
     
  10. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    เรื่องการเรียนมันเป็นสิ่งที่เลือกลำบากเหมือนกันเพราะมันไปผิดทาง เด็กควร
    จะรู้ก่อนว่าทุกอาชีพทำงานเกี่ยวกับอะไร มีอะไรที่เหมาะกับเขาและไม่เหมาะ
    กับเขา เมื่อเขาเจออาชีพที่เขาชอบแล้วค่อยสนใจว่าจะต้องศึกษาเกี่ยวกับ
    อะไร และศึกษาแต่ละวิชามีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพอย่างไร ปัญหา
    ตอนนี้ก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าอาชีพไหนทำงานเกี่ยวกับอะไร เด็กไม่มีโอกาสสัมผัส
    ว่าเขาเหมาะกับงานนั้นหรือเปล่าจนกระทั้งเขาเรียนในสิ่งที่เขาคิดว่าชอบและ
    ได้ไปทำงานนั้นจริงๆ เด็กหลายๆ คนเลือกที่จะเข้าคณะตามคะแนนที่สามารถ
    เลือกได้ มันจึงมีปัญหามากมาย น้อยคนที่รู้สึกลงตัวกับงานที่ทำ สิ่งที่จะช่วย
    ได้มากก็คือถามตัวเองให้แน่ใจว่าอาชีพที่เราเลือกทำนั้นเหมาะกับเราจริงๆ
    ส่วนการใช้ใจนั้นคือการเชื่อมทุกสิ่ง การใช้ความคิดคือการแบ่งแยกออกไป
    เรื่อย มันมีประโยชน์ในส่วนของมัน เราสามารถเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้
    ด้วยการใช้ความคิดแต่เราไม่สามารถเข้าใจคนอื่นและโลกได้ด้วยการใช้ความ
    คิด นั่นคือปัญหาของโลกในตอนนี้
     
  11. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    จริงด้วยแต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกันเพราะอะไร แต่เรื่องเรียนนี่บางคนก็บอกว่าถ้าไม่รู้แน่ชัดก็เรียนให้จบตรีไปก่อน พอทำงานแล้วถ้าไม่ชอบก็เลือกเรียนโทในสาขาที่ชอบ
    อย่าง ดร นิเวศ ที่เป็นวิศวะ ตอนหลังเขาก็เปลี่ยนมาสนใจด้านการเงิน เรื่องหุ้น การลงทุน คนที่เป็นประธานหรืออะไรเกี่ยวกับสมาคมผู้ค้าทองก็เรียนหมอมาก่อน ถ้าเด็กๆ มีโอกาสทำกิจกรรม เช่น ไปฝึกงาน หรือดูงาน นอกสถานที่เขาก็อาจจะรู้เห็นอะไรมากขึ้น แต่ก็ไม่แน่อีก ถ้าไปเจอสังคมเจอเพื่อนแบบไหนก็อาจจะตามๆ กันไป บางที่ก็อยู่ที่โชคชะตา ฟ้าลิขิต แต่เราก็ไม่ได้สนใจเรื่องดวงมากนะ พึ่งตัวเองดีกว่า แล้วก็ทำใจอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ก็ต้องไม่ประมาท

    อย่างเราก็นับว่าโชคดีอยู่หลายเรื่อง แต่จิตใจยังไม่มั่นคงพอ เช่น ชอบเปรียบเทียบเมื่อไปเห็นอะไรที่เหนือกว่า ก็รู้ว่า คิดแล้วเป็นทุกข์ แต่ก็เป็นอยู่ไม่นาน

    ท่านพุทธทาสก็บอกว่าโลกจะสันติได้ก็ ด้วย ธรรมะ
     
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    ครับคนทุกคนมีสิทธิเลือกเสมอแหละครับ ถ้าเราไม่ชอบอะไรเราก็สามารถที่จะ
    เลือกใหม่ได้เรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เราสามารถเลือกที่จะเป็น
    ได้ทุกอย่าง แม้จะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งก็ได้ถ้าเราปรารถนา ไม่มีใครที่
    สูงส่งกว่าใคร ไม่มีใครต่ำต้อยกว่าใคร ทุกคนล้วนมีอิสระที่จะเลือกอย่างเท่า
    เทียม แต่การที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่ปรารถนานั้นยากง่ายต่างกัน เพราะบางคนไม่เคย
    ทำเหตุมาเลย แต่จะเอาผล บางคนทำเหตุเสียแต่จะเอาผล ก็ต้องทำเหตุให้มาก
    ขึ้นไป พระพุทธองค์จึงให้เลือกทำเหตุที่มีอานิสงส์มากเพื่อให้ได้สมปรารถนา
    ดัง
    นั้นก็ไม่จำเป็นต้องอิจฉาใครเพราะไม่ว่าเขาจะเป็นใครเราก็สามารถเป็นแบบเขา
    หรือเป็นมากกว่าเขาถ้าเราปรารถนา แต่ถ้าเราพอแล้วไม่อยากทำเหตุแล้วก็ไม่
    จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใครเพราะเลือกที่จะพอแทนที่จะทำเหตุให้เป็นแบบ
    นั้น ส่วนเรื่องของการเข้าใจด้วยใจเป็นสิ่งที่คนเราขาดในตอนนี้ การเข้าใจด้วยใจ
    คือการเข้าใจโดยรวมทั้งหมด อย่างเราไม่เข้าใจว่าความจริงแล้วสงครามมันเกิด
    จากความรุนแรงในจิตใจมนุษย์ที่รวมกันสร้างขึ้นมา ไม่เข้าใจว่าโรคระบาดที่ฆ่า
    มนุษย์มากมายเกิดจากความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าที่หลายๆ คนรวมกันสร้าง
    ขึ้นมา การเลือกผู้นำที่คอรัปชั่นเกิดจากการชอบฟังเรื่องโกหกที่หลายๆ คนสร้าง
    ขึ้นมา สภาพอากาศที่แปรปรวนเกิดจากการทำลายสมดุลของธรรมชาติที่หลายๆ
    คนร่วมกันสร้าง ถ้าเราสามารถใช้ใจได้เราจะสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เป็นโดย
    รวมทั้งหมด จะเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำจะส่งผลต่อสิ่งโดยรวมทั้งหมดอย่างไร และ
    จะใช้ชีวิตราวกับว่าเป็นชีวิตร่วมกันทั้งหมด ไม่มีการแบ่งแยก
     
  13. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    สาธุ........

    ได้อ่านแล้ว ดีมากค่ะ

    เดี๋ยวต้องทำงานก่อน :VO
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,732
    [​IMG]
    ภาพนี้ ดูแล้วรู้สึกสุขสงบ เราจะสามารถเรียบเรียงความคิดได้ดีขึ้นค่ะ
     
  15. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    ขอบคุณนะคะ คุณครูติงติง
     
  16. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    วันนี้ เป็น วันเด็ก....
    อ้างอิง
    "ทุกคนมีสิทธิเลือกเสมอแหละครับ ถ้าเราไม่ชอบอะไรเราก็สามารถที่จะ
    เลือกใหม่ได้เรื่อยๆ "

    ทุกคนทีสิทธิเลือกเสมอ แต่การตัดสินใจในแต่ละครั้งก็มีปัจจัย อื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง
    อะไรที่เราเลือกแล้ว ก็คงจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเราแล้วในเวลานั้นๆ
    และเราก็ควรจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เลือกให้ถึงที่สุดก่อน แม้ภายหลังพบว่าชอบหรือไม่ชอบ
    การเลือกใหม่ของเรา อันดับแรกคือเลือกที่จะเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติของตัวเอง
    ให้เหมาะสมกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว
    ถ้าเราไม่อดทนและพยายามมากพอ โดยการเลือกใหม่ไปเรื่อยๆ มันอาจจะวนและกลับมา
    ที่เดิม
    นี่พูดถึงบางกรณีที่พบเห็นมานะ เช่นเคยเจอคนสมัยก่อนบางคนเีรียนไปได้ปีเดียว
    แล้วเอ็นใหม่ 2 -3 รอบ แล้วก็กลับมาได้คณะเดิมอีก แล้วก็ต้องเรียนจนจบ โดยใช้เวลา
    มากกว่าเดิม (สมัยนั้นยังไม่มี มหาลัยมากเหมือนในปัจจุบัน)

    แต่ในบางเรื่องเปลี่ยนแล้วดีขึ้นกว่าคนที่ไม่กล้าเปลี่ยนก็มี เช่น เปลี่ยนงาน
    ย้ายบ้าน

    การทำเหตุให้ดีให้มาก ตั้งแต่ต้น อายุยังน้อย ก็จะส่งผลดีในภายภาคหน้า
    เมื่อเราอายุมาก หรือสุขภาพถดถอย

    ส่วนที่บอกว่า "โรคระบาดที่ฆ่า
    มนุษย์มากมายเกิดจากความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าที่หลายๆ คนรวมกันสร้าง" อันนี้ไม่เข้าใจ มันลึกซึ้งเกินไป

    ที่บอกว่าทุกชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องและมีผลกระทบกันทั้งหมด อันนี้เห็นด้วย
    เช่น เมืองหลวงก็เหมือนหัวใจ ของประเทศ ถ้าหัวใจหยุดเต้น ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงร่างกาย ทุกอย่างก็ตายหมด
    ถนนหนทาง หรือตึกรามบ้านช่อง พืชผัก ข้าวปลาอาหาร ก็ต้องพึ่งพาอาศัย เพื่อนร่วมโลก ช่วยกัน มิฉะนั้นเราคงลำบากมาก

     
  17. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    เรื่องดี-ไม่ดี ควร-ไม่ควร มันเป็นเรื่องของทางโลก ในทางธรรมมันไม่สิ่งพวกนี้
    หรอกครับ อย่างเจ้าชายสิทธัตถะ ถ้าเลือกทำในสิ่งในควรคืออยู่กับพระนางยโส
    ธราและพระราชกุมารที่เกิดเพียงวันเดียวก็อาจจะไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า อาจจะ
    เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ไป ถึงได้เรียกว่ามันทวนกระแสโลกไงครับ การใช้ธรรมะใน
    ทางโลกก็คือการที่เรารู้ว่าเราสามารถเลือกได้เสมอ และถ้าเราไม่ชอบอะไรเราก็
    สามารถที่จะเลือกใหม่ได้ตลอด แต่ที่มันมักไม่เป็นอย่างนี้เพราะถ้าทุกคนเชื่อ
    แบบนี้มันจะอันตรายเกินไป จะไม่มีใครสามารถที่จะควบคุมให้คนอื่นทำตามใจได้
    จะไม่มีใครยอมผูกมัดตัวเองและปฏิบัติตามกฏระเบียบ เพราะเขารู้ว่ากฏระเบียบ
    เป็นสิ่งที่คนที่อยากควบคุมเขาสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะควบคุมเขา มันเป็นอะไรที่น่า
    สนใจ แต่ความจริงโลกของเรายังไม่พร้อมกับมัน จนกว่าทุกคนจะเรียนรู้ที่จะใช้
    ใจของตัวเองได้ และเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเราทำมันสามารถกระทบตนเอง กับคนรอบ
    ข้างและระบบทั้งหมดอย่างไร นี่คือความรับผิดชอบเดียวที่ควรจะมีและเป็นความ
    รับผิดชอบที่เป็นธรรมชาติมากๆ แต่เพราะมันยังไม่เกิดขึ้นเราเลยต้องสร้างความ
    รับผิดชอบขึ้นมาจากความกลัวและความรู้สึกผิดซึ่งฝืนธรรมชาติมากๆ เช่นกัน
    ดังนั้นอย่างแรกเราอาจจะให้เขาเรียนรู้การใช้ใจก่อน เพื่อที่เขาจะรู้จักความรับ
    ผิดชอบที่เป็นธรรมชาติ แล้วค่อยให้เขารู้จักกับอิสรภาพ
     
  18. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    เท่าที่เคยอ่านมาบ้าง เจ้าชายสิทธัตถะ มองการณ์ไกล ในยุคนั้น ก็มีการรบรากันระหว่าง

    ราชวงศ์ อะไรทำนองนั้น หรือเปล่า

    เรื่องอื่นๆ ก็คงเป็นไปตามขั้นตอน ตามกรรมมั้ง

    เดี๋ยวต้องใช่เวลาทำความเข้าใจก่อน
     
  19. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,290
    คนในยุคเราน่าจะสามารถเข้าใจเรื่องกรรมได้มากกว่ายุคไหน เพราะเราเริ่มรู้จัก
    กฏการดึงดูดและพลังงาน กรรมก็คือการคิด การพูด และการกระทำ ที่ประกอบ
    ด้วยเจตนา และทั้งสามสิ่งนี้ก็ส่งพลังงานออกไปจากตัวเราไปสู่ทุกสรรพสิ่งใน
    จักรวาล กระทบทุกคน และทุกที่ ไม่มีที่ไหนเลยที่พลังงานนี้จะไปไม่ถึง แต่พลัง
    นี้จะหนาแน่นในบางที่ และเบาบางในบางที่ สิ่งที่ทำให้มันหนาแน่นก็คือกฏการ
    ดึงดูด พลังงานที่เหมือนกันจะดึงดูดกัน ถ้ามีหลายๆ คนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่สมควร
    มีชีวิตอยู่ พลังงานนี้จะรวมกันและสร้างโรคระบาดที่จะทำลายคนทีละมากๆ ขึ้น
    มาได้ เพราะพลังงานนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนรูปไปได้ จะเป็นลบหรือบวกก็ได้ก็
    คือพลังงานตัวเดียวกัน จะเป็นนรกหรือสวรรค์ก็ได้ก็คือพลังงานตัวเดียวกัน
    อย่างเราได้รับพลังงานเคมีจากอาหารของโลก แล้วเราสามารถเลือกที่จะสร้าง
    พลังงานบวก เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความสุข ความรัก คืนให้กับโลกและ
    เปลี่ยนโลกใบนี้ให้เป็นสวรรค์ก็ได้ หรือเราจะเอาพลังงานจากอาหารของโลกมา
    เปลี่ยนเป็นพลังงานลบ เช่น ความริษยา การทำลายล้าง และทำให้โลกของเรา
    เป็นนรกไปเลยก็ได้
    เพราะพลังงานที่ออกจากตัวเรากระทบทุกคน และทุกสิ่งอยู่
    ตลอดเวลา
    นี่คือความหมายของ บุญ-บาป ถ้าเราทำบุญ พลังงานตัวนี้จะไปรวม
    ตัวหนาแน่นอยู่ที่สวรรค์ตามกฏการดึงดูด และการแผ่เมตตาก็คือการที่เรากระ
    จายพลังงานนี้ออกไปให้กับทุกสรรพสิ่ง คือการเปลี่ยนสิ่งที่ธรรมชาติให้มา
    แล้วคืนกลับสู่ธรรมชาติ
     
  20. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    คุณ bluebaby2

    เราคิดว่าในแต่ละวัน มนุษย์ก็เลือกอยู่ตลอดแหละ แล้วการไม่เปลี่ยนใหม่ก็คือเลือกที่จะทำแบบเดิมไปก่อน จนเวลาที่ต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน
    อย่างเช่นคนเรามักจะทำซ้าๆ ด้วยความเคยชิน พอวันหนึ่งคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมน่าเบื่ออย่างนี้ ก็หยุดทำและเปลี่ยนใหม่

    ในสถานการณ์เดียวกันคนเราก็เลือกที่จะตอบสนองต่างกัน เช่น รู้สึกชอบ
    เฉยๆ หรือโกรธ โลกของใคร ก็โลกของคนนั้น เช่นเวลาเกิดวิกฤติบางคนก็รับไปเต็มๆ บางคนก็เปลี่ยนเป็นโอกาส

    เราก็อยากหลุดพ้นจากตัวตนเหมือนกัน แต่ยังไม่มีเหตุปัจจัยที่เหมาะสม
    คงยังไม่ถึงเวลา นะ

    สงสัยเรื่องเรียนรู้การใช้ใจน่ะ
    รู้แต่ ศีล สมาธิ ปัญญา มรรค8 การเจริญสติ แล้วก็อ่านในเว็ปต่างๆ นี่แหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...