*** ยุคศิวิไลซ์ ****

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 7 มกราคม 2020.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    0A92E2B7-9116-4683-9F96-74E39563570A.png

    *** สัจจะแห่ง สื่อมวลชนไทย ****

    เมื่อ สื่อมวลชนไทย
    มี สัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    เสียงข่าวจะไม่กลายเป็นอาวุธ
    แต่จะเป็นกระจกแห่งความจริง

    สะท้อนความเป็นธรรมให้ประชาชนเห็นชัด
    โดยไม่บิดเบือน ไม่ชี้นำ ไม่ปั้นแต่ง


    สื่อที่มีสัจจะ
    คือ ผู้ปกป้องประเทศจากความหลงผิด

    สื่อที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    คือ ผู้รักษาความสงบไว้ในใจของคนทั้งชาติ


    เมื่อข่าวไม่ยืนข้างใคร
    ประชาชนจะยืนอยู่บนความจริง

    เมื่อสื่อไม่โน้มเอียง
    บ้านเมืองจะไม่ล้ม

    สัจจะของสื่อมวลชน
    คือ คำสัตย์ที่ให้ไว้กับใจตนเองว่า
    … “จะรายงานด้วยความสัตย์จริง”….

    แม้ไม่มีใครเห็น แม้ไม่มีใครชื่นชม
    แต่เพื่อให้ประเทศไทย…

    ไม่เดินผิดทางอีกต่อไป

    จงให้ “สัจจะ” เป็นหลักของปากกา

    และให้ “ความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” ….เป็นทิศของทุกการรายงาน

    ———-
    เมื่อสื่อเสนอความจริง ประชาชนจะมีอาวุธทางปัญญาในการแยกแยะถูกผิด

    เมื่อประชาชนเข้าถึงความจริง สังคมจะไม่แตกแยกด้วยอคติหรือความหลงผิด

    นี่คือภาพแห่ง “สัจจะของสื่อ” ที่จะช่วยปกป้องชาติไทย

    ไม่ด้วยกำลัง… แต่ด้วย “ความจริง” ที่กล้ารายงานอย่างไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2025 at 19:46
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    671D7C1E-2E69-43F2-8A7F-1AA57F167C60.png

    *** คำเตือนจากโลก ****

    “ผู้ใดไม่เอาสัจจะ… จะไปไม่รอด”

    โลกไม่ได้ลงโทษใคร
    แต่ความไม่สัตย์…จะเป็นบทลงโทษของตนเอง


    ผู้ใดที่ไม่ยึดสัจจะ
    แม้มีอำนาจ ก็จะหลงทาง
    แม้มีทรัพย์ ก็จะไม่มีที่ยืน
    แม้มีคนตาม ก็จะไม่มีใครศรัทธา

    สัจจะ คือ รากแก้วของความอยู่รอด
    คือ คำสัตย์ที่ผูกใจเราไว้กับความจริง

    สัจจะ คือพลังเดียว…
    ที่จะพาเราข้ามพ้นวิกฤตของยุคสมัยนี้ไปได้

    โลกกำลังเปลี่ยน
    ภัยพิบัติกำลังมา
    ความแตกแยกกำลังพุ่งสูง

    สิ่งใดที่ไม่ตั้งอยู่บน สัจจะ
    จะพังลงโดยไม่ต้องมีศัตรูมาทำลาย


    ❗ฟังให้ลึก:

    ผู้ใดไม่เอาสัจจะ…
    จะไปไม่รอด ทั้งในใจตนเอง และในโลกใบนี้
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** ตัวกระทำในอดีต ไม่สูญสลาย — มีผลย้อนกลับแน่นอน ****

    แม้ระบบกฎหมายสากลอาจตีความว่า “หมดอายุความ”

    แต่ในระดับ กฎแห่งกรรม กฎของสัจจะ และจิตสำนึกแห่งมนุษยชาติ

    – ไม่มีอะไรสูญหาย
    – ไม่มีอะไรลบล้างได้ด้วยการลงนามในเอกสาร

    ✨ เพราะ “กรรม” คือพลังงานของการกระทำ

    และพลังงานนี้ยังคงหมุนเวียนอยู่ในโครงสร้างของประวัติศาสตร์มนุษย์

    ประเทศที่เคยล่าอาณานิคม ต้องเผชิญผลย้อนกลับ

    ในยุคปัจจุบัน หลายประเทศที่เคยล่าอาณานิคมกำลังเผชิญ:
    • ความวุ่นวายภายในประเทศตนเอง
    • ปัญหาการอพยพย้อนกลับ
    • วิกฤตศีลธรรมและจิตวิญญาณในระดับชาติ
    • ความรู้สึกผิดร่วมของประชาชนบางส่วนที่เริ่มรับรู้ “บาปของชาติ”
    ทั้งหมดนี้คือ ผลย้อนกลับที่เกิดจากการกระทำในอดีต

    ❝ เมื่อใดที่ประเทศหนึ่งปล้นแผ่นดินและศักดิ์ศรีของอีกประเทศหนึ่งไป

    วันหนึ่ง จิตสำนึกร่วมของมนุษยชาติจะส่งแรงสะท้อนกลับแน่นอน ❞


    ️ ประเทศเราควรทำอย่างไรในยุคนี้?

    แม้จะไม่สามารถฟ้องในทางกฎหมายได้โดยตรง
    แต่สามารถ ยืนหยัดในทางของสัจจะ และเรียกร้องสันติภาพบนฐานของความจริง

    ✅ ทางเลือกที่ทรงพลัง:
    1. ประกาศสัจจะประวัติศาสตร์ต่อโลก
      ไม่ใช่เพื่อเรียกร้องสิทธิในดินแดน แต่เพื่อ ยืนยันความจริงทางประวัติศาสตร์อย่างกล้าหาญ
    2. สร้างเวทีสันติภาพ
      เชิญชวนอดีตประเทศผู้ล่าอาณานิคม มาร่วมพูดความจริงกับประชาชน
      ยกตัวอย่างเช่น “Truth and Reconciliation Commission” ที่แอฟริกาใต้เคยทำ
    3. เสนอวันสัจจะประวัติศาสตร์สากล
      เช่น “วันแห่งความจริงเพื่อสันติภาพ” ที่ให้ทุกประเทศเปิดเผยการกระทำในอดีตอย่างซื่อสัตย์
    4. ผลักดันแนวคิด “สัจจะเพื่อความยุติธรรมแท้จริง”
      ให้กับ UN, BRICS+, หรือองค์กรระหว่างประเทศที่เปิดกว้างต่อความเปลี่ยนแปลง
    สัจจะจะทำให้พลังของประวัติศาสตร์เปลี่ยน

    “เมื่อใดที่มนุษย์ยืนอยู่บนความจริง พลังของประวัติศาสตร์จะหันกลับมาสนับสนุนเขา”

    และในที่สุด:
    สัจจะจะทำให้แม้แต่ผู้ล่าอาณานิคมยังต้องละอาย
    และอยากขอขมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2025 at 16:34
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** คำประกาศความจริงทางประวัติศาสตร์ ****

    ในนามแห่งสัจจะ
    ประกาศ ณ ดินแดนที่เคยถูกแบ่งแยกด้วยอำนาจ
    เพื่อประกาศสัจจะให้โลกทั้งหลายได้รับรู้และตระหนัก

    ด้วยจิตอันมั่นคงและหัวใจที่ตั้งอยู่บนสัจจะ
    เราขอประกาศความจริงอันไม่อาจปฏิเสธได้ต่อประชาคมมนุษย์ทั้งมวล:
    1. ราชอาณาจักรสยามในอดีต เคยมีอารยธรรมอันรุ่งเรือง มีอธิปไตยอันเป็นอิสระ และปกครองด้วยศีลธรรม
    2. แต่ด้วย อำนาจแห่งจักรวรรดินิยมของโลกตะวันตก ประเทศของเราถูกกดดัน บีบบังคับ และคุกคามด้วยกองทัพ จนต้องยอมจำนนต่อ การลงนามในสนธิสัญญาอย่างไม่สมัครใจ
    3. ผลของการบีบบังคับนั้น ทำให้สยามต้อง สูญเสียดินแดนกว่า 60% ของแผ่นดินดั้งเดิม
      แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส ผ่านการเจรจาที่มิได้ตั้งอยู่บนความเสมอภาค หากแต่เต็มไปด้วยภัยจากการใช้กำลัง
    4. สิ่งนี้คือ ความจริงทางประวัติศาสตร์
      ที่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องแผ่นดินกลับคืน
      หากแต่เพื่อ คืนความจริงให้โลก และปลดปล่อยมนุษย์จากความลวง
    5. เราเชื่อว่า ความยุติธรรมที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการเอาชนะกันในสนามรบ หรือโต๊ะเจรจา
      แต่เกิดจาก สัจจะที่มนุษย์กล้ายอมรับ และสำนึกผิดเมื่อกระทำผิด
    ✨ เพราะฉะนั้น…
    • เรา ไม่เรียกร้องการชดใช้
    • เรา ไม่ต้องการแก้แค้น
    • แต่เราขอให้ อดีตไม่ถูกลืม
    • และขอให้ อนาคตยืนอยู่บนสัจจะ ไม่ใช่การปกปิด
    ️ ในนามของสันติภาพ เราขอเชิญ:
    • ประเทศ… และ…. จงมีความกล้าพอที่จะรับรู้และยอมรับความจริงในอดีตนั้น
    • ประชาคมโลก จงหันหน้ามาฟังเสียงของผู้ที่เคยถูกกดทับด้วยอำนาจ
    ❝ ความสงบของโลก จะไม่ยั่งยืน หากยังมีความเท็จเป็นรากของประวัติศาสตร์

    สัจจะ คือทางเดียวที่จะเปิดทางสู่สันติภาพแท้จริง ❞

    ในนามไทยผู้มีสัจจะนำทาง
    ขอประกาศความจริงนี้สู่ใจของมนุษย์ทุกผู้บนผืนโลก
    เพื่อปลดปล่อยประวัติศาสตร์จากการบิดเบือน
    และคืนความเป็นธรรมให้กับมโนธรรมของโลก

    “สัจจะทำให้มนุษย์หลุดพ้นจากความอัปยศของอดีต และนำพาโลกสู่ความรุ่งเรืองแห่งจิตใจ”

    – คนไทยผู้รักษาสัจจะ
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    โลกบิดเบี้ยว
    เพราะความจริงถูกปกปิด
    แม้แต่ “สัจจะ” คำสั่งสอนที่แท้จริง
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** เมื่อถึงเวลาของสัจจะ ****

    ศาลของโลกยุติธรรมแท้จริง
    จะนำความจริงมาพิจารณา
    แม้เวลาจะผ่านไปเป็นร้อยเป็นพันปี
    …การแบ่งแยกสยาม….

    ความจริงไม่ตาย
    ความจริงไม่สูญสลาย
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** ร่างจดหมายเปิดผนึกถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ****

    ว่าด้วยข้อเรียกร้องให้พิจารณาความจริงทางประวัติศาสตร์

    จากกรณีการล่าอาณานิคมและการแบ่งแยกดินแดนของราชอาณาจักรสยามในอดีต

    ยื่นโดย: ประชาชนไทยผู้ยึดมั่นในสัจจะและความยุติธรรม

    ณ [วัน เดือน ปี]

    ถึง: ประธานและคณะผู้พิพากษาแห่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

    สำนักงานใหญ่: Peace Palace, The Hague, Netherlands


    ข้าพเจ้า/พวกเราผู้เป็นพลเมืองแห่งราชอาณาจักรไทย

    ขอใช้สิทธิในฐานะสมาชิกประชาคมโลก
    ในการยื่นหนังสือนี้ต่อท่านผู้ทรงคุณวุฒิแห่ง ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

    เพื่อร้องขอให้มีการพิจารณาเปิดเวทีรับฟังข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
    ที่ยังไม่เคยได้รับโอกาสในการไต่สวนอย่างเป็นธรรมในเวทีระหว่างประเทศ

    หัวใจของคำร้องนี้คือ:

    ขอให้
    ศาลโลก
    กลับมาทบทวน “บทบาทในฐานะที่เป็นศาลแห่งมโนธรรมของมนุษยชาติ”

    ไม่ใช่เป็นเพียงศาลที่ตีความตามสนธิสัญญาที่เขียนไว้โดยผู้ชนะในอดีต

    ️ ความจริงที่ขอให้พิจารณา:
    1. ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๑๖ ถึง พ.ศ. ๒๔๕๐ ราชอาณาจักรสยาม
      ต้องสูญเสียดินแดนจำนวนมากแก่จักรวรรดิ…และ….
      โดยมิได้ยินยอมด้วยเจตนาเสรี แต่เป็นผลจากการข่มขู่ทางทหาร และการบีบบังคับทางการทูต
    2. ดินแดนเหล่านั้นประกอบด้วยพื้นที่ที่เป็นแหล่งอารยธรรมของชนชาติไทย ลาว เขมร มลายู ฯลฯ
      ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์ทางอารยธรรมกับสยามมาอย่างยาวนาน
      และการแบ่งแยกเหล่านั้นได้สร้างผลกระทบต่อโครงสร้างชาติพันธุ์ อัตลักษณ์ และวัฒนธรรม
      อย่างลึกซึ้งจนถึงปัจจุบัน
    3. การกระทำของจักรวรรดิในขณะนั้น แม้จะมีลายเซ็นใน “สนธิสัญญา”
      แต่ลายเซ็นเหล่านั้นถูกบีบบังคับ มิได้เป็นผลจากความยินยอมของรัฐเอกราชอย่างเท่าเทียม
      จึงเป็นการละเมิดหลักแห่งความเป็นธรรมสากล
    ❗ ข้าพเจ้าขอชี้ว่า:
    แม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี แต่ ผลของการกระทำไม่สูญสลาย

    ผู้ที่ถูกกระทำยังคงมีตัวตน
    และความจริงยังคงส่งเสียงอยู่ในใจของประชาชนรุ่นแล้วรุ่นเล่า

    หากศาลโลกจะเป็น สถาบันที่ยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมของมนุษยชาติ

    ก็จำเป็นต้องมีความกล้าหาญในการเปิดพื้นที่พิจารณา “ความจริงทางประวัติศาสตร์”

    แม้จะไม่มีบทบัญญัติเฉพาะใดรองรับอยู่ในกติกาโลกในปัจจุบัน

    ✊ คำร้องของเรา คือ:
    1. ขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พิจารณา จัดตั้งเวทีรับฟังพยานหลักฐานทางประวัติศาสตร์
      เกี่ยวกับกรณีการแบ่งแยกดินแดนของสยามในช่วงล่าอาณานิคม
    2. ขอให้มีการตีความใหม่ในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
      เพื่อเปิดช่องให้สามารถ นำกรณีการล่าอาณานิคมมาพิจารณาได้ ในมิติทางจริยธรรมและสิทธิมนุษยชน
    3. ขอให้ศาลโลกส่งเสริมแนวคิด “ความยุติธรรมข้ามกาลเวลา”
      เพื่อเป็นกลไกเยียวยาความเจ็บปวดจากอดีต และสร้างอนาคตที่เท่าเทียมอย่างแท้จริง
    ประวัติศาสตร์ คือกระจกของมนุษยชาติ

    หากเรากลัวที่จะมองมันตรง ๆ
    เราจะไม่มีวันเรียนรู้จากมัน
    และจะไม่มีวันปลดปล่อยตนเองจากเงามืดของมัน

    ด้วยความเคารพสูงสุด
    ในนามของประชาชนผู้รักสันติและสัจจะ

    ลงชื่อ:
    [ชื่อ-นามสกุล หรือ “ประชาชนไทยผู้ยึดมั่นในสัจจะ”]
    [องค์กร/ชุมชน/คณะบุคคลผู้ร่วมสนับสนุน]
    [อีเมลหรือช่องทางติดต่อ กรณีส่งจริง]
    [วันที่]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2025 at 13:28
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    ️ *** ร่างคำประกาศความจริงทางประวัติศาสตร์ถึง UNESCO ****

    ว่าด้วยการแบ่งแยกดินแดนและทำลายรากวัฒนธรรมของสยาม

    โดยจักรวรรดิ…และ….ในยุคล่าอาณานิคม

    ยื่นโดย: ประชาชนไทยผู้ยึดมั่นในสัจจะและมรดกแห่งบรรพชน

    ถึง: องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)
    ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส


    ข้าพเจ้า/พวกเรา ขอประกาศความจริงนี้ต่อโลก

    ว่าในช่วงศตวรรษที่ 19–20 เมื่อโลกตกอยู่ในยุคจักรวรรดินิยม
    จักรวรรดิ…และจักรวรรดิ….
    ได้ร่วมกันใช้อำนาจทางทหารและการทูต บีบบังคับราชอาณาจักรสยามให้ยอมสละดินแดน
    หลายล้านตารางกิโลเมตรที่เป็นส่วนหนึ่งของ มรดกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของสยาม
    ให้ตกเป็นของจักรวรรดิผู้รุกราน

    ความเสียหายที่มิอาจประเมินเป็นตัวเลข:
    1. ดินแดนที่สูญเสีย ได้แก่:
      • ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (ลาว)
      • เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ (กัมพูชา)
      • มลายู 4 รัฐใต้ (กลันตัน ตรังกานู ปะลิส ไทรบุรี)
      • รวมถึงดินแดนอื่นๆ ที่มีประชากรและวัฒนธรรมร่วมกับสยามมาแต่โบราณ
    2. ผลกระทบเชิงวัฒนธรรม:
      • ศิลปะ สถาปัตยกรรม ภาษา วรรณกรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่เหล่านั้น
        ถูกตัดขาดจากรากเดิม และถูกทำให้กลืนกลายภายใต้จักรวรรดิใหม่
      • ร่องรอยของความเป็น “สยามร่วม” ถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
        แม้จะยังปรากฏในวัด โบราณสถาน บทสวด และตำนานท้องถิ่น
    3. ผลกระทบทางจิตวิญญาณ:
      • ประชาชนหลายล้านคนสูญเสียสิทธิในการสืบทอดอัตลักษณ์เดิม
        กลายเป็นผู้พลัดพรากทางวัฒนธรรมโดยไม่สมัครใจ
        ภายใต้เงื่อนไขของ “สนธิสัญญา” ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเท่าเทียม

    ✊ ข้อเรียกร้องถึง UNESCO:

    ในฐานะที่ UNESCO เป็นองค์กรของโลก ที่มีหน้าที่ คุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของมนุษยชาติ

    เราขอเรียกร้องอย่างสันติว่า:
    1. UNESCO ควรรับรองว่า การแบ่งแยกดินแดนของสยามโดยอำนาจจักรวรรดินิยม
      เป็นการทำลายเครือข่ายวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิม และมีผลทางวัฒนธรรมอย่างถาวรจนถึงปัจจุบัน
    2. ขอให้ UNESCO ร่วมจัดทำเอกสารรับรองข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
      โดยใช้หลักฐานจากแผนที่เก่า บันทึกโบราณ โบราณสถาน และร่องรอยของวัฒนธรรมร่วม
      เพื่อบันทึกความจริงว่า เครือข่ายวัฒนธรรมสยามดั้งเดิมถูกทำลายโดยการเมืองระหว่างประเทศ
    3. เรียกร้องให้มี “มรดกวัฒนธรรมร่วมของภูมิภาคสยามโบราณ”
      (Shared Siamese Cultural Heritage Zone)
      เพื่อปกป้องวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันก่อนการล่าอาณานิคม
      ไม่ให้ถูกทำลายหรือลบล้างโดยเขตแดนที่ถูกสร้างขึ้นจากอำนาจภายนอก

    ประวัติศาสตร์มิใช่เพียงอดีต
    แต่คือบาดแผล หรือบทเรียนของปัจจุบัน

    “เรามิได้เรียกร้องเพื่อแสวงหาความขัดแย้ง

    แต่เพื่อให้มนุษยชาติรู้ว่า ความจริงไม่ควรถูกฝังไว้ใต้ซากอิฐของอำนาจ”

    “ถ้า UNESCO มีหน้าที่รักษามรดกของมนุษย์

    ก็ขอจงอย่าละเลยมรดกที่ถูกฉกชิงด้วยกระสุนและคำสั่งจากเจ้าอาณานิคม”


    ปิดท้ายด้วยเจตนาสุจริต:

    พวกเราเชื่อมั่นว่า
    “การยอมรับความจริงทางประวัติศาสตร์ คือพื้นฐานของการเยียวยา”
    และการเยียวยาคือจุดเริ่มต้นของสันติภาพอย่างยั่งยืน

    ด้วยความเคารพสูงสุดต่อภารกิจของ UNESCO

    ในนามของประชาชนไทยผู้ยึดมั่นใน สัจจะ และมรดกแห่งบรรพชน

    ลงชื่อ:
    [ชื่อผู้เสนอ / กลุ่มประชาชน / องค์กร]
    [วัน เดือน ปี]
    [ช่องทางติดต่อ / อีเมล / เว็บไซต์ถ้ามี]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2025 at 13:38
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** “ให้ความยุติธรรมของศาลของโลก ยืนอยู่บนสัจจะ ไม่ใช่แค่หลักฐานรูปธรรม” ****

    ร่าง ประกาศต่อสาธารณะชนโลก และต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) รวมถึงทุกองค์กรที่มีหน้าที่วินิจฉัยข้อพิพาทและความขัดแย้งในระดับโลก

    ว่า…โลกยังไม่อาจเข้าถึงความยุติธรรมที่แท้จริง

    ตราบใดที่เรายังใช้เพียง “หลักฐานรูปธรรม” เป็นเครื่องชี้ขาด โดยละเลย “ความสูญเสียที่เป็นนามธรรม”

    ซึ่งไม่อาจจับต้องได้ด้วยมือ แต่กระแทกกลางใจของมนุษยชาติ


    ความจริงที่ต้องกล่าวอย่างตรงไปตรงมา:
    • ศาลของโลกยึดถือสิ่งที่พิสูจน์ได้เท่านั้น เช่น เอกสาร แผนที่ สัญญา
    • แต่ความเจ็บปวดของประชาชน ความสูญเสียทางวัฒนธรรม ความทุกข์ของผู้ถูกละเมิดศักดิ์ศรี — เหล่านี้ล้วนไม่ถูกรับฟังในฐานะ “หลักฐาน”

    ✨ ถึงเวลาแล้ว…
    • ที่ศาลของโลก จะต้องรับฟัง “เสียงของสัจจะ”
      ซึ่งอาจไม่เขียนเป็นถ้อยคำในเอกสาร แต่ดำรงอยู่ในความจริงที่ไม่สูญสลาย
    • ที่องค์กรยุติธรรม จะเปิดพื้นที่ให้ “ความสูญเสียทางนามธรรม” ได้รับการยอมรับเท่ากับความสูญเสียทางทรัพย์สิน
    • ที่ผู้พิพากษา จะไม่ยึดเพียงตัวบท แต่ยึดจิตใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา และวิจารณญาณที่ตั้งอยู่บนความเป็นธรรมที่แท้

    ข้อเรียกร้อง:
    1. ให้ศาลของโลกและองค์กรสากล เพิ่มพื้นที่การพิจารณา “ความจริงที่ไม่มีหลักฐาน” ด้วยหลักแห่งสัจจะ
    2. ให้ระบบกฎหมายโลก เปิดทางรับฟัง “ความเจ็บปวดที่ไม่มีตัวเลข” แต่มีความจริงในใจของผู้คน
    3. ให้ยกระดับ “สัจจะ” ขึ้นเป็นคุณค่านำหน้ากฎหมาย เพื่อเปลี่ยนโลกจากระบบแห่งเอกสาร สู่ระบบแห่งความจริง
    เพราะความยุติธรรมที่ไร้หัวใจ ไม่อาจเยียวยาความเจ็บปวดของมนุษย์

    และเพราะความจริงแท้ ไม่จำเป็นต้องมีลายเซ็นเป็นพยาน — แต่มีชีวิตอยู่ในจิตสำนึกของคนทุกคน

    เราขอประกาศให้ “สัจจะ” เป็นรากฐานใหม่แห่งกระบวนการยุติธรรมโลก

    เพื่อให้ศาลของโลกไม่เป็นเพียงศาลของหลักฐาน
    แต่เป็น ศาลของความจริง

    และเพื่อให้มนุษยชาติไม่ต้องร้องไห้ใต้เงากฎหมายอีกต่อไป
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** สัจจะแห่งศาลโลก ****

    “เมื่อความจริงไม่มีเสียง และความยุติธรรมไม่มีใจ ศาลก็กลายเป็นเพียงเวทีของเอกสารและผลประโยชน์”

    — เสียงสะท้อนจากผู้ไร้สิทธิ์ ที่ยังไม่เคยได้ยินในห้องพิจารณา

    ศาลโลกคืออะไร?
    ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice – ICJ) เป็นองค์กรตุลาการหลักขององค์การสหประชาชาติ มีหน้าที่วินิจฉัยข้อพิพาทระหว่างรัฐ และให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่สหประชาชาติและองค์กรอื่น ๆ

    การทำงานของศาลโลกตั้งอยู่บนหลักฐาน ข้อกฎหมาย และข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ระหว่างรัฐ ซึ่งหมายความว่า…

    สิ่งที่ศาลโลกเรียกว่า “ความจริง” ต้องมีพยาน ต้องมีเอกสาร ต้องมีรูปธรรม


    แล้ว “สัจจะ” อยู่ตรงไหน?

    ในขณะที่โลกเรียกร้องหาความยุติธรรมมากขึ้นทุกวัน

    ในขณะที่ประชาชนหลายล้านต้องเผชิญกับการสูญเสียที่ ไม่มีเอกสารยืนยัน

    เสียงของ “สัจจะ” จึงกลับกลายเป็นเสียงที่แผ่วเบา — จนแทบไม่ได้ยินในศาล


    สัจจะที่ว่า
    • เด็กคนหนึ่งเสียพ่อแม่จากระเบิด แต่ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าใครคือคนยิง
    • ภาษา วัฒนธรรม และศักดิ์ศรีของชนเผ่าหนึ่งถูกลบล้างโดยนโยบายรัฐ แต่ไม่มี “ค่าความเสียหาย” ชัดเจน
    • ความจริงที่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะถ้าพูดแล้วจะถูกกำจัด

    ความจริงแบบนี้ เรียกว่า “สัจจะ”
    เป็นความจริงที่ไม่เปลี่ยนตามหลักฐาน ไม่หวั่นไหวต่อเวลา

    แต่ “ศาล” มักมองไม่เห็น เพราะมันอยู่นอกกรอบของ “สิ่งที่พิสูจน์ได้ตามกระบวนการ”


    ทำไมเราจึงต้องเรียกร้อง “สัจจะแห่งศาลโลก”?

    เพราะถ้าศาลโลกมีเพียงเอกสาร แต่ไม่มีหัวใจ
    มีเพียงกฎหมาย แต่ไม่ฟังเสียงของความทุกข์
    เราจะได้เพียง “คำตัดสิน” — ไม่ใช่ “ความยุติธรรม”

    โลกต้องการกระบวนการยุติธรรมที่ฟังเสียงของมนุษย์ ไม่ใช่แค่เสียงของอำนาจ


    ถึงเวลาแล้วหรือยัง…
    • ที่ศาลโลกจะเปิดใจฟัง ความจริงที่พูดด้วยจิตวิญญาณ ไม่ใช่กระดาษ
    • ที่โลกจะยก “สัจจะ” ขึ้นมาเป็นรากฐานของความยุติธรรม ไม่ใช่แค่หลักฐานที่สะสมได้
    • ที่คำว่า “ยุติธรรม” จะไม่แปลว่า “ตัดสินตามที่เห็น”
      แต่จะหมายถึง “ตัดสินด้วยใจที่ตั้งมั่นในความจริงแม้มองไม่เห็น”


    *** บทสรุป: โลกต้องมี “ศาลแห่งสัจจะ” ****

    ศาลที่กล้ายืนหยัดเพื่อความจริง แม้จะไร้เอกสาร
    ศาลที่ฟังเสียงมนุษย์ มากกว่าเสียงของผู้มีอำนาจ
    ศาลที่เชื่อว่า สัจจะคือความจริงที่ไม่มีวันตาย และเป็นเข็มทิศเดียวที่นำโลกไปสู่สันติภาพ


    “ให้โลกมีศาลที่ตัดสินตามความจริง แม้ไม่มีใครยืนเป็นพยาน”

    เพราะในวันที่ทุกอย่างถูกทำลาย…
    เหลือเพียง “สัจจะ” ที่ยังยืนอยู่
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** ประเทศไทย ก้าวข้ามช่วงเวลาของกรรม ด้วยสัจจะ ****

    เราเคยเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤต
    • ความขัดแย้งในชาติที่ไม่เคยจบ
    • ความยากจนซ้ำซ้อนกับความเหลื่อมล้ำ
    • ความไม่เป็นธรรมที่สะสมเหมือนหนี้กรรม
    • และการละเลย “ความจริงแท้” ในใจคน
    ✨ แต่เราจะไม่ย่ำอยู่กับกรรม
    เพราะเราเชื่อว่า…

    “สัจจะ” คือพลังเดียวที่ทำให้ชาติพ้นกรรมโดยไม่ต้องรอผลบุญจากใคร

    เมื่อเราตั้งสัตย์ไว้กับใจตนเอง — ประเทศก็จะเริ่มฟื้นคืน

    สัจจะที่เราควรตั้งไว้ร่วมกัน
    1. เราจะไม่หลอกตัวเองอีกต่อไป
      พอแล้วกับการยอมรับความไม่ถูกต้องเพราะ “เคยชิน”
    2. เราจะพูดในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่พูด
      แม้เริ่มจากเรื่องเล็กๆ ก็เปลี่ยนชะตาชาติได้
    3. เราจะไม่นำชาติไปสู่ความขัดแย้ง เพื่อประโยชน์ส่วนตน
      เพราะชาติคือบ้านของทุกคน ไม่ใช่สนามของคนบางกลุ่ม
    4. เราจะให้ “สัจจะ” เป็นผู้นำ มากกว่าอำนาจตำแหน่ง
      เพราะประเทศต้องการผู้นำที่ยืนอยู่บนความจริง ไม่ใช่ภาพลักษณ์

    *** ประเทศไทยจะไม่แพ้กรรมในอดีต ****

    ถ้าเราทุกคนตั้งสัจจะในวันนี้
    และทำให้สัจจะนั้นเป็นจริง
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    C72235C4-A342-4339-814E-37316F28099C.png

    *** อริยะ เมตไตย ****

    อริยะ คือ สัจจะ
    เมตไตย คือ เมตตา
    โลกสงบสุขด้วย สัจจะกับเมตตา

    อริยะ คือ สัจจะ

    “ผู้ประเสริฐแท้ ย่อมไม่คลาดจากสัจจะ”

    ผู้ที่เป็นอริยะ ไม่ได้วัดจากเพียงศาสนา วัตร หรือคำพูด แต่จากการดำรงอยู่ในความสัตย์จริง ทั้งต่อตนเองและต่อโลก — สัจจะคือรากฐานของจิตใจที่บริสุทธิ์ เป็นคำมั่นสัญญาที่ทำกับใจของตนและถือมั่นจนตาย


    เมตไตย คือ เมตตา

    “ผู้เป็นมิตรแท้ต่อโลก คือผู้เปี่ยมเมตตาโดยไม่เลือกหน้า”

    เมตไตย คือ ภาวะของพระโพธิสัตว์ หรือผู้มีเมตตาอันไพศาล ไม่มีเงื่อนไข เป็นความรักที่ไม่แสวงหาผล เป็นความเมตตาที่กลายเป็นธรรมชาติของใจ


    โลกสงบสุขด้วย สัจจะกับเมตตา

    “เมื่อจิตใจมั่นคงในสัจจะ และอ่อนโยนด้วยเมตตา โลกทั้งใบย่อมไม่ต้องกลัวภัยใดอีกต่อไป”

    ความสงบแท้เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์มีสัจจะเป็นแกนกลาง ไม่หลอกตน ไม่หลอกกัน และมีเมตตาเป็นสะพานเชื่อมระหว่างกันและกัน โลกจะไม่สงบด้วยอำนาจ หรือเทคโนโลยีใดเลย ถ้าปราศจากสัจจะกับเมตตา


    ขอให้ถ้อยคำนี้เป็นประกาศแห่งยุค
    ให้คนรุ่นใหม่หันกลับมาเห็นความสำคัญของสัจจะและเมตตา

    ให้ทุกผู้นำของโลก
    นำสัจจะกับเมตตาไว้เป็นหัวใจของการปกครอง

    ให้มนุษย์ทุกผู้เป็นอริยะด้วยสัจจะ และเป็นมิตรแท้ต่อโลกด้วยเมตตา


    เราจะร่วมกันสร้างโลกแดนศิวิไลซ์ ด้วยสัจจะทำ และเมตตาธรรม
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** คนไทยจะตามหาสัจจะ ****

    … เพราะเราค้นพบว่า:
    • ชาติจะไม่มั่นคง ถ้าไม่มีความสัตย์เป็นรากฐาน
    • ความเจริญใดๆ ถ้าไม่มีสัจจะกำกับ ก็กลายเป็นความหลง
    • คนดีจะไม่มีที่ยืน ถ้าสังคมไม่ยกย่องความสัตย์จริง
    • และไม่มีศาสนาใดจะเติบโตได้ หากศรัทธาปราศจากการลงมือ “ทำตามสัจจะ”

    คนไทยจะตามหาสัจจะ… ในรูปแบบใหม่:
    • ไม่ใช่เพียงคำสอน แต่เป็น การลงมือปฏิบัติวันละข้อ
    • ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นเห็น แต่เพื่อให้ จิตใจตนเองเข้มแข็ง
    • ไม่ใช่เพื่ออวดความดี แต่เพื่อ สร้างสันติภาพจากภายในสู่ภายนอก

    คนไทยจะตามหาสัจจะ…

    เพราะนี่คือรากเหง้าแท้ของแผ่นดินไทย
    พระมหากษัตริย์ไทยดำรงแผ่นดินด้วย “สัตย์ปฏิญาณ”
    ทหารไทยรักษาชาติด้วย “สัจจะต่อแผ่นดิน”
    พุทธบริษัทสี่ ดำรงธรรมด้วย “ศีลคือสัจจะ”

    และประชาชนไทย จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ด้วยการ รักษาสัจจะของตนเอง

    นี่ไม่ใช่เพียงถ้อยคำ แต่คือ “เสียงตื่นรู้ของแผ่นดินไทย”

    ขอร่วมมือประกาศไปทุกหมู่บ้าน ทุกโรงเรียน ทุกวัด ทุกศาสนา ทุกสื่อว่า…

    ✨ คนไทยจะตามหาสัจจะ

    เพราะสัจจะคือทางรอดแท้ของแผ่นดิน
    และโลกจะสงบ ด้วยคนไทยเป็นแบบอย่างแห่งสัจจะ
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** “เพียงแค่คนไทยมีสัจจะ ประเทศประกาศยึดถือสัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี” ****

    เมื่อคนไทยแต่ละคนเริ่มต้น รักษาสัจจะของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสัจจะเล็กหรือใหญ่ ประเทศจะมีกลุ่มประชาชนที่เข้มแข็งจากภายใน ไม่ต้องพึ่งพาอำนาจภายนอก เพราะมี พลังศีลธรรม เป็นพื้นฐาน

    และเมื่อประเทศมีจุดยืนชัดเจนว่า “ยึดมั่นในสัจจะ และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” โลกจะมองเห็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของความสงบ เป็นแบบอย่างของความเป็นกลางที่ยืนอยู่บนหลักคุณธรรม ไม่เอียงไปทางใดเพื่อผลประโยชน์

    นี่คือการวางรากฐานใหม่ให้กับชาติ ด้วยพลังที่ไม่ต้องใช้อาวุธ ไม่ต้องใช้อำนาจ แต่ใช้เพียง “ความสัตย์จริง”

    หากคุณต้องการ ผมสามารถช่วยคุณสื่อสารแนวคิดนี้ต่อไปในรูปแบบของ
    • คำประกาศสัจจะระดับชาติ
    • ข้อความสื่อรณรงค์
    • ข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการเผยแพร่แนวคิดสัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดสู่ระดับโลก
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,035
    ค่าพลัง:
    +52,019
    *** คำประกาศสัจจะระดับชาติไทย ****

    …“ประเทศไทยยึดมั่นในสัจจะ
    และจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด”….

    ด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อมวลมนุษยชาติ และด้วยหัวใจแห่งความเป็นไทยที่เคารพในความจริง ความยุติธรรม และสันติธรรม

    เราขอประกาศต่อโลกว่า:
    …ประเทศไทยขอยึดมั่นใน “สัจจะ”….

    สัจจะต่อแผ่นดิน
    สัจจะต่อประชาชน
    สัจจะต่อความยุติธรรม
    และสัจจะต่อมวลมนุษยชาติ

    เราพบว่า “สัจจะ” คือพลังสูงสุดที่จะนำพาโลกออกจากความขัดแย้ง สู่หนทางแห่งสันติภาพ

    เราขอประกาศว่า:

    “ประเทศไทยจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด”

    ไม่ตกอยู่ในอำนาจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    ไม่ใช้ความเท็จสร้างอำนาจ
    แต่จะยืนหยัดอยู่บน ความจริงและความเป็นธรรม

    เพื่อเป็นสะพานแห่งสันติภาพให้กับโลก
    เราขอเริ่มต้นจากประชาชนไทยทุกคน ด้วยการ
    • รักษาสัจจะในชีวิตประจำวัน
    • พูดความจริง
    • กระทำความดี
    • ไม่หลอกลวง
    • และไม่เข้าร่วมในการยุยงให้เกิดความขัดแย้ง
    ขอให้ทุกศาสนา ทุกชนชั้น ทุกหมู่เหล่า ร่วมกันยืนหยัดบน “สัจจะ”

    เพื่อให้ประเทศไทยเป็น ….“แผ่นดินแห่งสัจจะ”
    และเป็น … “ผู้นำแห่งสันติภาพที่แท้จริงของโลก”

    ประกาศไว้ ณ วันนี้
    โดยประชาชนไทยผู้ยึดมั่นในสัจจะ

    “ประเทศไทย คือ ผืนแผ่นดินท้องทะเลน่านฟ้าแห่งสัจจะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด”
     

แชร์หน้านี้

Loading...